นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล

 บริษัท เจ แอนด์ เอ สตีล จำกัด (“บริษัท”) ขอแจ้งให้ท่านที่ติดต่อมายังบริษัททราบว่า บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ติดต่อมาใช้บริการของบริษัท ภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และเมื่อท่านติดต่อมายังบริษัท ส่งต่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่บริษัทเพื่อประโยชน์ในการติดต่อ ประสานงาน และ/หรือการให้บริการจากบริษัทให้แก่ท่าน บริษัทจะถือว่าท่านตกลงและยอมรับที่จะปฏิบัติตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผล บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้จากหลายช่องทาง ดังนี้

(1)   ได้รับโดยตรง จากการติดต่อสื่อสารระหว่างบริษัทและท่าน

(2)   ได้รับทางอ้อมจากการอ้างอิงจากบุคคลอื่น ซึ่งท่านอาจให้ความยินยอมให้บุคคลดังกล่าวเปิดเผยส่งต่อข้อ มูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ บริษัท หรือ

(3)  เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติด้วยระบบ เมื่อท่านเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ และ/หรือใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ ได้แก่

(1)   ชื่อนามสกุล รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องของท่าน หรือของตัวแทนของท่าน (ในกรณีที่ท่านติดต่อมาในนามของนิติบุคคล) ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลเอกสารการแสดงตนของท่าน

(2)   ข้อมูลการติดต่อ อาทิ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ หรือข้อมูล Social Media Account

(3)   ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ท่านอาจให้แก่บริษัทระหว่างการติดต่อสื่อสาร เช่น ข้อมูลเรื่องที่ต้องการติดต่อสอบถาม ข้อมูลความสนใจ หรือข้อมูลประกอบอื่น ๆ ที่อาจระบุตัวตนของท่านได้ซึ่งท่านให้แก่ บริษัท โดยตรงผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ 

(4)   กรณีการติดต่อผ่าน Website อาจรวมถึงข้อมูลทางเทคนิคของท่าน ได้แก่ IP Address, Cookies รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้นของท่าน

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ  ดังต่อไปนี้

(1)   เพื่อการจัดการตอบรับการสื่อสารที่ท่านติดต่อมายังบริษัท เช่น เพื่อการตอบคำถาม การส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่ท่านร้องขอและต้องการ การจัดการข้อร้องเรียน หรือการตอบรับความคิดเห็นต่าง ๆ ที่ท่านให้แก่บริษัทโดยตรง ผ่านช่องทางการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ รวมถึงการประสานงานต่อเนื่องไปจนถึงการให้บริการ การจัดทำสัญญาการให้บริการ และ/หรือการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ที่บริษัทและท่านอาจตกลงและจัดทำระหว่างกันต่อเนื่อง 

(2)   เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้เงื่อนไขทีต้องปฏิบัติตาม ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การปฏิบัติหน้าที่ในการจัดทำเอกสารบัญชี และภาษีสำหรับการให้บริการใด ๆ ที่บริษัทอาจให้ แก่ท่าน

(3)   เพื่อการสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจ รวมถึงการปรับปรุงการให้บริการที่บริษัทจะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของท่านให้ดีขึ้น ซึ่งบริษัทอาจรวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประ โยชน์ในการควบคุม การรับประกันคุณภาพ การวิเคราะห์การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้องของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการฝึกอบรมพนักงาน หรือการวางแผนการให้ปรับปรุงการให้บริการในอนาคต

(4)   เพื่อประโยชน์ในการปกป้องและต่อสู้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีที่อาจเกิดข้อพิพาท ระหว่างท่านและบริษัท ไม่ว่าในลักษณะใด และ

(5)   กรณีที่บริษัทอาจได้รับความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยจุดประสงค์เฉพาะเจาะจงจากท่าน เช่น เพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์ทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว

ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้นทั้งหมด บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา ดังนี้

(1)   สำหรับการประมวลผลข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์การให้บริการ การจัดทำสัญญา และ/หรือการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ภายใต้สัญญา บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตราบเท่าที่บริษัทยังมีหน้าที่ให้บริการแก่ท่าน

(2)   สำหรับการประมวลผลข้อมูล ด้วยวัตถุประสงค์การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไว้ตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

(3)   สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และ/หรือการปรับปรุงการให้บริการ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเท่าที่บริษัทอาจ มีความจำเป็นทางธุรกิจ โดยรับประกันไม่ให้กระทบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร

(4)   สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการปกป้องและต่อสู้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทมีความจำเป็นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดอายุความที่เกี่ยวข้อง และ

(5)   กรณีที่ท่านให้ความยินยอมแก่บริษัท ในการประมวลผลข้อมูลด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ บริษัทจะประมวล ผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจนกว่าท่านจะถอนความยินยอม

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยหลักการแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผย ยกเว้นเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ ให้แก่ กลุ่มบุคคลดังนี้

(1)   การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน รวมถึงที่ปรึกษาด้านการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทจะส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ และบนพื้นฐานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หรือ

(2)   กรณีที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้บังคับคำสั่งหรือคำพิพากษา ของหน่วยงานราชการ บริษัทอาจมีความจำเป็นในการส่งต่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานดังกล่าว

บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะตามความเหมาะสม และโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยว ข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล บริษัทเคารพสิทธิของท่าน ในฐานะเจ้าของข้อมูลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อขอใช้สิทธิของท่าน ซึ่งได้แก่ (1) สิทธิในการถอนความยินยอม (2) สิทธิในการขอเข้าถึง (3) สิทธิในการขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการขอปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง (5) สิทธิในการขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิในการขอโอนถ่ายข้อมูลที่เก็บบันทึกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถถ่ายโอนได้ง่าย รวมถึงการโอนถ่ายไปให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (7) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลของท่านเมื่อหมดความจำเป็น (8) สิทธิในการขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว และ (8) สิทธิในการร้องเรียนได้

ข้อมูลติดต่อบริษัท

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ที่อยู่:     บริษัท เจ แอนด์ เอ สตีล จำกัด

37/1 หมู่ที่ 6 ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74110

อีเมล์ หรือเบอร์โทรศัพท์: hr@jasteel.co.th / 0853803759

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

คณะกรรมการของ บริษัท เจ แอนด์ เอ สตีล จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะนายจ้างที่รับผิดชอบบริหารจัดการการคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการให้แก่พนักงานของบริษัท มีจุดประสงค์ ออกประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานฉบับนี้เพื่อให้พนักงานทั้งหมดพึงรับทราบเกี่ยวกับสิทธิ และเงื่อนไขต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทดำเนินการ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

ภายใต้ประกาศฉบับนี้ พนักงานหมายความรวมถึง (1) กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างที่อยู่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน (2) พนักงานฝึกงาน (3) พนักงานเกษียณที่เป็นที่ปรึกษาภายใต้สัญญาจ้างทำของของบริษัท (“พนักงาน”)

ข้อ 1       ชื่อประกาศและผลบังคับใช้

1.1        ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน” และให้มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่บริษัทประกาศเป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับกับพนักงานทั้งหมดของบริษัท

1.2        บริษัทอาจปรับปรุงประกาศฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงาน หรือการให้การคุ้มครองแรงงานหรือสวัสดิการแก่พนักงาน ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้พนักงานทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยประกาศนั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อถูกประกาศใช้

ข้อ 2       นิยามข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ทําให้สามารถระบุตัวตนของพนักงานแต่ละบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่บริษัท (ก) ได้รับโดยตรงจากพนักงานเอง (ข) ได้รับจากผู้ให้บริการคุ้ม ครองและจัดสวัสดิการคุ้มครองแรงงานภายนอก ที่บริษัทว่าจ้างให้การคุ้มครองแรงงานแก่พนัก งาน หรือ (ค) ได้รับจากการรวบรวม การประเมินผล และจัดทำข้อมูลดังกล่าวขึ้นเพิ่มเติม โดยบริษัทเองในฐานะนายจ้าง ระหว่างการว่าจ้างงานภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดที่บริษัทกำหนด

ข้อ 3       ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผล ได้แก่

3.1        ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนพนักงานโดยตรง อาทิ ชื่อนามสกุล เลขที่และสำเนาบัตรประจำประชาชน อายุ สัญชาติ วันเกิด รวมถึงประวัติแสดงคุณสมบัติอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงานซึ่งได้ให้แก่บริษัทตามแบบฟอร์มการรับสมัครงานและสัญญาจ้างแรงงาน

3.2        ข้อมูลการติดต่อของพนักงาน อาทิ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ

3.3        ข้อมูลการชำระเงินที่บริษัทดำเนินการให้แก่พนักงาน อาทิเช่น บัญชีธนาคาร ประวัติการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ รวมถึงเงินเดือน เลขที่ประกันสังคม รายละเอียดประกันสวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่น ๆ และรายละเอียดการใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงานดังกล่าว

3.4        ข้อมูลประวัติการทำงานและการฝึกอบรมต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประวัติการเข้าทำงาน ประวัติการลา ซึ่งได้รับการบันทึกโดยระบบบันทึกการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ และจากแบบประเมินความสามารถและการวัดผลของบริษัท

3.5        ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวอื่น ๆ เช่น ข้อมูลชีวภาพ ได้แก่ ลายนิ้วมือ ภาพถ่ายจำลองใบหน้า ข้อมูลสุขภาพ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี ใบรับรองแพทย์ หรือรายละเอียดการเบิกค่ารักษาพยาบาล การสุ่มตรวจสารเสพติด การรับการรักษาและวัคซีน โรคประจำตัวต่าง ๆ) เป็นต้น

3.6        ข้อมูลภาพถ่ายทั้งที่เป็นภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวของพนักงานที่เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้นทั้งที่เป็นกิจกรรม ส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในองค์กร และกิจกรรมการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก

3.7        ข้อมูลชื่อนามสกุล ลายเซ็น และรายการดำเนินการอื่น ๆ ที่บริษัทอาจจัดทำ รวบรวม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามและ การจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในทางการที่จ้างของบริษัท

3.8        ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่พนักงานอาจให้แก่บริษัทเพื่อการประเมิน วิเคราะห์ บริหารจัดการ และจัดหาสวัสดิการเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน เช่น แบบฟอร์มการแสดงความคิดเห็น แบบฟอร์มการเข้าร่วมกิจกรรม เป็นต้น

 ข้อ 4       ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผล

4.1        ในกรณีที่บริษัทมีการจัดสวัสดิการ ให้แก่สมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงาน ทั้งในลักษณะของสวัสดิการที่ให้แก่ครอบครัวโดยตรง และ/หรือการให้ประโยชน์ในฐานะผู้รับผลประโยชน์จากพนักงาน เพื่อการดำเนินการให้สวัสดิการดังกล่าว บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของสมาชิกครอบครัวหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อ และเอกสารแสดงตนของบุคคลดังกล่าว รวมถึงกรณีได้รับความยินยอมและจำเป็นสำหรับการให้สวัสดิการที่เกี่ยวข้อง อาจรวมถึงข้อมูลสุขภาพของบุคคลนั้น

4.2        ในกรณีที่พนักงานเป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลดังกล่าว บริษัทจะถือว่า พนักงานให้การรับประกันว่า พนักงานมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และขอความยินยอมจากสมาชิกดังกล่าวครบถ้วนและถูกต้องแล้ว

ข้อ 5       วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กรอบ (1) การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อการคุ้มครองแรงงาน และอื่น ๆ (2) การปฏิบัติหน้าที่ของนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน รวมถึง (3) การคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทมีวัตถุประสงค์หลักในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่ระบุไว้ ดังนี้

5.1        เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมาย รวมทั้งกฏ แนวปฏิบัติ หรือคำสั่ง คำแนะนำ หนังสือบอกกล่าว ซึ่งออกโดยหน่วยงานที่กํากับดูแล บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อจุดประสงค์เฉพาะ ได้แก่ การอํานวยความสะดวก และ/หรือควบคุมดูแลการคำนวณชำระภาษีอากร และการหักภาษี ณ ที่จ่าย การจัดทำทะเบียนพนักงาน การประกันสังคม การจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือแรงงาน การคุ้มครองและดูแลอาชีวอนามัยแรงงาน และอาจรวมถึงการตรวจคนเข้าเมือง และ/หรือการได้รับอนุญาตให้ทํางาน/ใบอนุญาตทํางาน (กรณีพนักงานต่างประเทศ) ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

5.2        เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน ซึ่งอาจรวมถึง การควบคุมดูแล บริหารจัดการความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของพนักงาน

 

  1. การบริหารจัดการดูแลการจ่ายเงินเดือน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การตรวจสอบดูแล และ/หรือการจัดการเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน การตั้งเป้าหมายการปฏิบัติงาน การจัดการและ/หรือการบันทึกความสําเร็จ หรือความก้าวหน้าของพนักงาน
  2. การพิจารณาความเหมาะสมในการเลื่อนตําแหน่งของพนักงาน การให้รางวัลหรือผลประโยชน์อื่นใดที่บริษัทอาจจัดให้รวมถึงการพิจารณาออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรม (ไม่ว่าจัดขึ้นโดยบริษัทหรือบุคคลอื่น) หรือใช้ในการบังคับมาตรการลงโทษต่อพนักงานที่อาจปฏิบัติไม่สอดคล้อง หรือละเมิดหน้าที่การจ้างงานที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานหรือประกาศแรงงานอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิของบริษัทในฐานะนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน
  3. การจัดการและ/หรือการบริหารสิทธิประโยชน์และสวัสดิการในการจ้างงาน การจัดการเกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิและการยืนยันตัวตนเพื่อให้สวัสดิการ ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานแก่พนักงานในส่วนต่าง ๆ เช่น สิทธิประกันภัยและ/หรือข้อเรียกค่าสินไหม การจัดการเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ (ไม่ว่าสําหรับตัวพนักงานเอง หรือสมาชิกในครอบครัว หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงานตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดหาไว้ให้)
  4. การติดต่อสื่อสาร ประสานงานกับพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมดูแลและ/หรือการบริหารจัดการความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัทหรือการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

5.3        เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กร การใช้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท รวมถึงการปกป้องที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. การทํากิจกรรมการวิจัย วิเคราะห์และพัฒนา (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะการสํารวจทําแบบสอบถามและ/หรือการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รวมถึงเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท หรือเพื่อสิทธิประโยชน์อื่นของพนักงาน
  2. การจัดการกระบวนการทางกฎหมาย การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมาย และการเยียวยาความเสียหาย การต่อสู้คดีหรือข้อเรียกร้องทางศาล และการบริหารจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องใด ๆ
  3. การเก็บบันทึกและจัดทําสถิติ การวิจัยภายใน และ/หรือการรายงานตามกฎหมาย และ/หรือการเก็บบันทึกข้อมูลตามข้อกําหนดต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานของบริษัทและ/หรือบริษัทในเครือ
  4. การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ขององค์กร โดยอาจมีการเปิดเผยและนำเสนอข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ซึ่งอาจรวม ถึงแต่ไม่จำกัดเพียงภาพถ่าย หรือข้อมูลความเชี่ยวชาญคุณสมบัติของพนักงาน โดยข้อมูลสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวนั้นจะถูกนำมาใช้ เปิดเผย ประมวลผล และเผยแพร่ในจดหมาย ข่าว หรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใดซึ่งทำขึ้นหรือออกเผยแพร่โดยบริษัททั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และในรูปแบบกระดาษ
  5. การบริหารจัดการบริหารความเสี่ยง การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การควบคุมและกำกับดูแลการทำงานภายในของบริษัท ผ่านกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงการตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานดังกล่าวในอนาคตที่ พนักงานดังกล่าวอาจกลับมาสมัครงานที่บริษัทอีกครั้ง
  6. การเก็บ ควบคุม สํารอง และ/หรือ กู้คืนจากความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

5.4        กรณีที่พนักงานให้ความยินยอมเป็นการเฉพาะ บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ตามวัตถุประสงค์เฉพาะที่พนักงานให้ความยินยอมไว้

ข้อ 6       ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

6.1        บริษัทมีความจำเป็น ในการจัดเก็บ และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตลอดระยะเวลาสัญญาจ้างแรงงานของแต่ละคน และตลอดระยะเวลาที่จำเป็นซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาตามกรอบระยะเวลาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

6.2        บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามกำหนดอายุความ 10 ปีหลังจากหมดหน้าที่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และการต่อสู้เรียกร้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายระหว่างบริษัทและพนักงาน ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานดังกล่าว และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ บริษัทรับประกันว่า การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวจะไม่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร และให้สิทธิเจ้าของข้อมูลในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลได้ตามกฎหมาย

6.3        กรณีการใช้ภาพสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ รวมถึง การจัดทำสถิติ และรายงานเอกสารต่าง ๆ ที่พนักงานได้ดำเนินการในทางการที่จ้างของบริษัท บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ไว้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีความจำเป็นทางด้านธุรกิจในการดำเนินการดังกล่าว

ข้อ 7       การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแรงงานและการจัดสวัสดิการแรงงาน ที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานและภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจมีความจําเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานต่อบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่ได้กําหนดไว้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวที่จะได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่

7.1        ลูกค้า คู่ค้าของบริษัท บริษัทในเครือ รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ดําเนินการเกี่ยวกับ การให้สวัสดิการ ต่าง ๆ แก่พนักงานแทนและเพื่อบริษัท ได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการประกันกลุ่ม ผู้ให้บริการบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ (HRM) หรือให้บริการพัฒนาบุคลากร (HRD) หรือผู้ให้บริการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ผู้ให้บริการจัดทำและประมวลผลค่าแรงค่าจ้างและจัดหาสวัสดิการ บริษัทประกันภัย บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น รวมถึง ที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการของบริษัท ผู้ดําเนินกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะภายใต้ขอบเขตที่จำเป็น ภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

7.2        บุคคลภายนอกใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การร่วมทุน การโอนสิทธิ์ การโอน หรือการจําหน่ายโดยลักษณะอื่นใดซึ่งธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเพียงการเสนอหรือการดําเนินการจริงก็ตาม (รวมถึงการดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายหรือกระบวนการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน) ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะขอบเขตที่จำเป็นภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและองค์กรภายนอกดังกล่าว

7.3        หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแล รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมจัดหางาน ศาลและองค์คณะในการระงับข้อพิพาทอื่นใด หรือหน่วยงานราชการอื่นที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่ง กฎหมาย หรือคำพิพากษา

7.4        ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นตามที่พนักงานระบุและแจ้งให้บริษัททราบ

ข้อ 8       มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

8.1        บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงการใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดังกล่าว อย่างสม่ำเสมอเป็นปกติ เพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.2        ในกรณีที่พนักงานคนใดมีสิทธิเข้าถึงหรือดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใด พนักงานดังกล่าวยอมรับและรับทราบหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว เช่นเดียวกัน โดยรับประกันชดเชยและชดใช้ให้แก่บริษัทกรณีที่เกิดความเสียหายใด แก่บริษัท อันเกิดจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว

ข้อ 9       สิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูล

บริษัทประกาศยืนยันสิทธิตามกฎหมายของพนักงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่

9.1        สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง

9.2        สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

9.3        สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

9.4        สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม

9.5        สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น

9.6        สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่พนักงานเคยให้ไว้

บริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของพนักงานให้พนักงานทราบ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ พนักงานสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ที่: hr@jasteel.co.th